โรแบร์โต้ มันชินี่

อิตาลียุคใหม่ภายใต้มือของ “มันชินี่”

ทีมชาติอิตาลีเพิ่งประกาศแต่งตั้งอดีตโค้ชอินเตอร์และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ ให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่เพื่อเริ่มภารกิจการสร้างทีมชาติอิตาลียุคใหม่ขึ้นมา หลังจากที่ล้มเหลวในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกในรัสเซียในเดือนหน้า ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่อิตาลีไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 60 ปี เลยทีเดียว ซึ่งครั้งล่าสุดนั้นก็คือฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นที่ประเทศสวีเดน จึงอาจจะพูดได้ว่านี่เป็นยุคที่ทีมชาติอิตาลีตกต่ำที่สุดเลยก็ไม่น่าจะเป็นคำพูดที่มากเกินไปนัก

โดยจุดเริ่มต้นของความตกต่ำนี้อาจจะหนีไม่พ้นความเสื่อมถอยของลีกประจำชาติอย่างกัลโช่ เซเรียอา ที่เวลานี้ไม่ใช่เบอร์ 1 เหมือนในยุคก่อนๆอีกแล้ว หากใครจำได้ในยุคที่กัลโช่รุ่งเรืองนั้นเป็นแหล่งรวมของนักเตะระดับโลกมากมาย แต่ปัญหาการล้มบอลทำให้ลีกเกิดปัญหามาอย่างยาวนานและในที่สุดก็ส่งผลกระทบกับทีมชาติในระยะยาว ซึ่งการมารับตำแหน่งของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กับการมาคุมทีมบ้านเกิดหลังจากตระเวนคุมทีมต่างๆมามากมายหลายลีกในยุโรป เรียกว่าประสบการณ์ในฐานะผู้จัดการทีมหรือในฐานะนักเตะทีมชาติ ก็มากพออย่างไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่มันชินี่กำลังต้องเจอคือปัญหาคุณภาพของนักตะที่มีให้เลือกนั่นเอง

อิตาลี่ นักเตะเจ๋งๆไม่เยอะพอ

เพราะเวลานี้ทีมชาติอิตาลีมีผู้เล่นในระดับ World Class น้อยมาก หากจะว่ากันตามตรงก็น่าจะมีเพียงแค่ มาร์โก แวร์รัตติ เท่านั้นที่พอจะอยู่ในระดับนั้น ส่วนแผงหลังที่เป็นตัวหลักของทีมมาหลายปีทั้ง จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน จอร์โจ คิเอลลินีหรือ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ล่วงเลยวันเวลาที่ยิ่งใหญ่มาแล้ว และไม่ใช่คนที่มันชินี่จะหวังเอาไปใช้สร้างทีมในยุคใหม่ได้ เท่ากับว่ามันชินี่จะต้องทำงานอย่างหนักในการดึงศักยภาพของนักเตะที่มีให้ได้ออกมาเร็วที่สุดก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันทัวนาเม้นท์ใหญ่ถัดไปก็คือ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2020

ซึ่งอิตาลีในยุคใหม่นั้นเห็นจะต้องใช้บริการของ จันลุยจี ดอนนารุมมา อเลสซานโดร ฟลอเรนซี มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ่, อันโตนิโอ คันเดรวา, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ เป็นแกนหลักของทีม ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆนั้น คงจะต้องสลับสับเปลี่ยนกันลงเล่นจนกว่า มันชินี่ จะมองเห็นว่าใครที่เหมาะจะมาเป็นตัวหลักที่ตัวเองสามารถวางใจได้ เพราะหากว่าการแข่งขันฟุตบอลยูโรอิตาลียังคงแสดงถึงความล้มเหลวอีก ก็มีแนวโน้มว่าช่วงเวลาตกต่ำของอิตาลีจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอีกนานเลยทีเดียว