ข่าวกีฬา สาระฟุตบอล มองมองกูรูชั้นนำ

หรือ ค้อน เวสแฮมป์ จะเป็นตาอยู่…

เมื่อการแข่งขันฟุตบอลโลกจบลง ความคึกคักของหน้าเว็บข่าวกีฬารวมถึงหน้าหนังสือพิมพ์กีฬาตอนนี้คงให้ความสนใจไปยังตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่กำลังสนุกสนานคึกคักอย่างเต็มที่ มีดีลใหญ่ให้เราได้เห็นหลายราย อาทิ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะเบอร์ 1 ของโลกชาวโปรตุเกสเดินออกจากถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว ของ เรอัล มาดริด ไปซบยูเวนตุส ด้าน ลิเวอร์พูล จัดหนักจัดเต็มด้วยการจ่ายค่าตัวสถิติโลกให้กับนายทวารทีมชาติบราซิลอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ เพื่อให้มาเฝ้าเสายังถิ่นแอนฟิลด์ แต่อีกหลายๆ ข่าวการย้ายตัวบนหน้าหนังสือพิมพ์ที่สร้างความน่าสนใจให้กับวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างมาก คือ การกระสันดึงนักเตะของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้จัดหนักไปแล้ว 7 ราย

หากไล่กันตั้งแต่เริ่ม นี่คือรายชื่อนักเตะที่กุนซือคนใหม่ชาวชิลีอย่าง มานูเอล เปเยกรินี่ ดึงตัวมาร่วมทีมนับตั้งแต่ ไรอัน เฟรเดริคส์, ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้, อิสซา ดิอ็อป, แจ็ค วิลเชียร์, อันเดรย์ ยาร์โมเลนโก้, ฟาเบียน บัลบูเอนา และตัวล่าสุดที่ทำลายสถิติสโมสรไปเรียบร้อยอย่าง เฟลิเป้ แอนเดอร์สัน มิดฟิลด์แซมบ้าที่ย้ายจาก “อินทรีฟ้า-ขาว” ลาซิโอ มาร่วมทัพเวสต์แฮม ถือเป็นการทำทีมในสไตล์ของเปเยกรินี่ที่เชื่อขนมกินได้ว่าปีนี้ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนไม่ธรรมดาแน่นอน โปรไฟล์ส่วนตัวที่จำกันได้ขึ้นใจคือการพา “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เรียกว่าบารมีของกุนซือชิลีรายนี้ขายได้ไปเต็มๆ กับการดึงนักเตะเข้ามาสู่ทีม คำถามที่หลายคนสงสัยคือแล้วเขาจะกลายเป็นม้ามืดแย่งแชมป์หรือไม่

คุณภาพยังไม่ใช่เกรด A ซะทีเดียว

หากมองในมุมศักยภาพนักเตะ วิเคราะห์บอลวันนี้ ผลงานโดยรวมมันอาจยังไม่ถึงขั้นได้มีโอกาสลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว เพราะนักเตะที่ดึงเข้าสู่ทีมส่วนมากล้วนเป็นเกรด B ถึง B+ เสียเป็นส่วนใหญ่ กระนั้นก็ห้ามดูถูกความสามารถของกุนซือรายนี้เด็ดขาด แต่ถึงแม้ว่าเขาอาจไม่ได้ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่เชื่อขนมกินได้ว่ายังไงพื้นที่บอลยุโรปปีหน้าเวสต์แฮมอาจขอจองสักตำแหน่งแน่นอนด้วยการเสริมทัพระห่ำขนาดนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลยุคนี้เรื่องของเงินคือปัจจัยสำคัญในการพาทีมไปสู่ความสำเร็จ และนี่คือสิ่งที่ เวสต์แฮม ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขากำลังจะก้าวขึ้นเป็นหัวหอกใหม่แห่งพรีเมียร์ลีกกับการขอโอกาสเบียดขึ้นไปแย่งแชมป์กับบรรดายักษ์ใหญ่ทั้งหลายที่สมัยนี้มันไม่ได้มีการผูกขาดแชมป์อีกต่อไปแล้ว ทุกคนล้วนแต่ต้องเติบโตด้วยกันทั้งนั้น

สื่อตี ม้าลาย ใกล้คว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าสู่รัง

หลังมีข่าวออกมาเป็นระยะว่า “ม้าลาย” ยูเวนตุส ทีมดังแห่งศึกกัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี ตกเป็นข่าวให้ความสนใจในตัวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะชาวโปรตุเกสของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ล่าสุดมีรายงานว่าการเจรจากำลังเป็นไปด้วยดีพร้อมมีแนวโน้มอีกภายใน 48 ชั่วโมง การเจรจาน่าจะจบลงเพราะตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอนของการตรวจสอบสัญญาขั้นสุดท้ายของเรอัล มาดริด เท่านั้น คาดว่าค่าตัวของดาวเตะเลือดโปรตุกีสจะอยู่ราว 88 ล้านปอนด์

ความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้อาจมีดีลใหญ่ให้ได้เห็นเมื่อสื่อต่างประเทศรายงานว่า “ม้าลาย” ยูเวนตุส ใกล้คว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะตัวเก่งจากทัพ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด มาร่วมทีมเต็มแก่แล้ว โดยคาดว่าภายใน 48 ชั่วโมงจะรู้ผลทันทีเกี่ยวกับการย้ายทีมครั้งนี้และคาดว่าค่าตัวของดาวเตะบัลลงดอร์ปีล่าสุดน่าจะอยู่ที่ราว 88 ล้านปอนด์ ในการที่ดาวเตะวัย 33 ปี ที่เล่นในถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว มา 9 ปี จะย้ายออกไป โรนัลโด้ ขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลให้กับ เรอัล มาดริด ด้วยการซัดไป 450 ประตู คว้าแชมป์ลาลีกา สเปน 2 สมัย, แชมป์โคปา เดล เรย์ 2 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย

ไปดีกว่า เอียร์โร่ ประกาศลาออกกุนซือ กระทิง

เฟอร์นานโด เอียร์โร่ ได้กลายเป็นอดีตกุนซือทัพ “กระทิงดุ” สเปน ไปเรียบร้อยแล้วหลังเจ้าตัวประกาศขอลงจากตำแหน่งเพราะทำได้แค่พาสเปนตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียด้วยการพ่ายดวลจุดโทษให้กับเจ้าภาพ แถมเมื่อจบการแข่งขันแมตช์ดังกล่าวอันเดรียส อิเนียสตา ยังประกาศเลิกเล่นทีมชาติอีกด้วย ทำให้เอียร์โร่ตัดสินใจลงจากเก้าอี้กุนซือพร้อมให้สมาคมฟุตบอลสเปนหาคนใหม่ที่เหมาะสมดีกว่า

กุนซือวัย 50 ปี รายนี้เข้ารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่แห่งทัพสเปน ได้เพียง 2 วัน ก่อนเริ่มศึกฟุตบอลโลกเพราะชูเลน โปเลเตกี ดันประกาศเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับ เรอัล มาดริด ในการไปคุมทีมซีซั่นหน้าส่งผลให้เขาโดนตะเพิดพ้นเก้าอี้กุนซือทันทีและสมาคมฟุตบอลสเปนได้ให้เฟอร์นานโด เอียร์โร่ เข้ามาทำทีมลุยศึกฟุตบอลโลกแทนแต่เขาก็พาทีมไปได้ไกลแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการพ่ายดวลจุดโทษต่อเจ้าภาพรัสเซีย

นอกจากนี้อดีตดาวเตะและผู้ช่วยผู้จัดการทีมของเรอัล มาดริด จะไม่กลับไปรับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของทีมชาติสเปนที่เขาเคยดำรงก่อนหน้าจะเข้ามาทำทีมแทนอีกด้วย นั่นทำให้ทีมชาติสเปนต้องหากุนซือคนใหม่เข้ามาทำทีม

ฟอสเตอร์ หวังย้ายซบ แตน เพื่อเล่นบนพรีเมียร์ลีกต่อ

เบน ฟอสเตอร์ อดีตนายทวารทีมชาติอังกฤษ ก็ออกอาการงอแงเมื่อเขาต้องการย้ายออกจากทัพ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในช่วงซัมเมอร์นี้หลังทีมร่วงตกลงไปเล่นยังศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ในซีซั่นหน้า โดยมี “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ดให้ความสนใจในตัวเขาอยู่ด้วยเหมือนกัน คาดว่าค่าตัวของนายทวารวัย 35 นี้น่าจะตกราว 3 ล้านปอนด์

ยังคงมีข่าวในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่า “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด เตรียมเปิดโต๊ะเจรจากับ “เดอะ แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขอซื้อตัว เบน ฟอสเตอร์ อดีตนายทวารทีมชาติอังกฤษ หลังเจ้าตัวพร้อมเพื่อนร่วมทีมอย่างเคร็ก ดอว์สัน ปฏิเสธไม่ไปฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นกับทีมที่โปรตุเกสรวมถึงสัญญาฉบับปัจจุบันของเขากับทีมก็เหลืออีกเพียงปีเดียวทำให้เชื่อกันว่าค่าตัวของนายประตูรายนี้น่าตกราว 3 ล้านปอนด์

สำหรับอดีตนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยถูกยืมตัวไปเล่นให้กับวัตฟอร์ดในช่วงปี 2005 – 2007 พร้อมกันนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่เวทีพรีเมียร์ลีก กระนั้นช่วงนี้วัตฟอร์ดกำลังวุ่นวายในตลาดซื้อขายนักเตะอย่างมากจากการพึ่งกระชากตัวอดัม มาซิน่า จากโบโลญญ่า และ มาร์ค นาบาร์โร่ จากเอสปันญ่อล มาร่วมทีม

สื่อตี อัลเวส เตรียมซบปาร์ม่าเร็วๆ นี้

บรูโน่ อัลเวส ปราการหลังจากกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ได้ทำการเดินทางไปตรวจร่างกายกับ ปาร์ม่า ทีมในศึก กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากไม่มีปัญหาอะไรก็เชือ่ว่าเจ้าตัวน่าจะตกลงเซ็นสัญญาย้ายจากการเล่นในสกอตติช พรีเมียร์ลีก ไปยัง กัลโช่ ซีเรีย อา อิตาลี ในช่วงซัมเมอร์นี้ค่อนข้างแน่ จากรายงานของสื่อในอิตาลีเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะล่าสุด

สำหรับตัวของบรูโน่ อัลเวส เป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมชาติโปรตุเกสประกาศศักดาคว้าแชมป์ยูโร 2016 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมาแม้พ่ายให้กับอุรุกวัย ก่อนหน้านี้เขาพึ่งย้ายมายังถิ่นไอบรอกซ์ สเตเดี้ยม เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา ทว่าดาวเตะวัย 35 ปี กลับมีโอกาสได้ลงเล่นเพียง 25 นัด โดยเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บจนไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามอย่างที่ควรเป็น

ยิ่งในช่วงซัมเมอร์นี้สตีเว่น เจอร์ราร์ด กุนซือใหม่แกะกล่องของทีมได้ดึงตัวเซนเตอร์ฮาล์ฟเข้ามาร่วมทีมถึง 2 ราย คือ นิโคล่า คาติช กับ คอนนอร์ โกลด์สัน ทำให้เชื่อว่าพื้นที่ของอัลเวสน่าจะลดน้อยถอยลงไปอีก นั่นคือส่วนสำคัญในการทำให้เจ้าตัวตัดสินใจเตรียมย้ายทีมในครั้งนี้

แม็คไกวร์ หนุน เซาท์เกต คิดถูก โรเตชั่น เกมกับเบลเยียม

แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แนวรับแห่งทัพอังกฤษ ได้ออกโรงมาสนับสนุน แกเร็ธ เซาท์เกต เจ้านายใหญ่ของทีม โดยระบุว่าเป็นความคิดที่ฉลาดมากกับการเลือกโรเตชั่นนักเตะในเกมพบกับ เบลเยียม ซึ่งเป็นเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แม้อังกฤษจะพ่ายไป 0-1 แต่จูงมือพากันผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยอังกฤษต้องไปเจอกับ โคลัมเบีย ต่อไป

เกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มระหว่างอังกฤษกับเบลเยียม แกเร็ธ เซาท์เกต กุนซือใหญ่แห่งทัพ “สิงโตคำราม” ตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะถึง 8 คน ในการออกสตาร์ทแม้จะพ่ายเบลเยียมไป 0-1 เข้าเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม โดยเกมดังกล่าวดาวซัลโวประจำทีมอย่าง แฮร์รี่ เคน นั่งเป็นตัวสำรอง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเขาต้องการหลบไม่อยากชนทีมใหญ่ในรอบลึกๆ และแฮร์รี่ แม็คไกวร์ แนวรับจากเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่ามันคือความฉลาดของผู้จัดการทีมในกรเลือกโรเตชั่นนักเตะ

“เขาคือผู้จัดการทีมที่ฉลาด เขาตัดสินใจครั้งใหญ่ในเกมใหญ่ เขาสามารถพูดได้เลยว่าเขาฉลาด เช่นกันกับกุนซือเบลเยียมที่เขาเปลี่ยนตัวจริงถึง 9 คน เพราะทั้งสองคนกำลังมองภาพใหญ่ในเกมต่อๆ ไป และรู้ดีว่าเกมถัดไปเป็นหนึ่งในเกมใหญ่ของทั้งสองทีม” แนวรับเลสเตอร์ ระบุ

แอชลีย์ ยัง สุดมั่น สิงโตพร้อมก้าวสู่แชมป์โลกแล้ว

แบ็กขวาตัวเก่งของทัพ สิงโตคำราม ก็ได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนนัดเปิดสนามของกลุ่ม จี ที่ทัพ “สิงโตคำราม” จะลงเล่นเป็นเกมแรกในการพบกับตูนิเซีย วันจันทร์หน้าโดยเจ้าตัวได้ระบุว่าทีมของพวกเขาพร้อมแล้วในการก้าวไปสู่แชมป์โลกในศึกฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้

สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ทัพ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ได้ถูกจับให้อยู่ในกลุ่ม จี โดยมีทีมในกลุ่มประกอบไปด้วย เบลเยียม, ปานามา และตูนิเซีย ซึ่งลูกทีมของแกเร็ธ เซาท์เก็ต ต้องการลบฝันร้ายที่พวกเขารั้งบ๊วยของกลุ่มตกรอบแรกไปเมื่อตอนฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ขณะที่ในศึกฟุตบอลยูโร 2016 ก็พ่ายให้กับไอซ์แลนด์ในควอเตอร์ไฟนอล ซึ่งแบ็กตัวเก่งจากทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกเรียกกลบไปติดทีมชาติลงเล่นในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้อีกครั้ง แอชลีย์ ยัง ได้ออกมากล่าวอย่างมั่นใจ

“การเริ่มต้นของทัวร์นาเมนต์คือสิ่งสำคัญเสมอ คุณจำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยชัยชนะ เรามีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่และรอคอยการลงเล่นในเกมแรก คุณสามารถพูดถึงผลการแข่งขันในอดีตได้ แต่ตอนนี้เราอยู่ที่นี่ เราต้องการทำผลงานให้ดีทั้งในการฝึกซ้อมและการลงเล่นเกมแรก ผมว่าคุณสามารถมองจากสองเกมล่าสุดที่เราทำผลงานได้ดี และนั่นคือสิ่งที่เราจะทำ”

อิตาลียุคใหม่ภายใต้มือของ “มันชินี่”

ทีมชาติอิตาลีเพิ่งประกาศแต่งตั้งอดีตโค้ชอินเตอร์และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง โรแบร์โต้ มันชินี่ ให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่เพื่อเริ่มภารกิจการสร้างทีมชาติอิตาลียุคใหม่ขึ้นมา หลังจากที่ล้มเหลวในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกในรัสเซียในเดือนหน้า ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่อิตาลีไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 60 ปี เลยทีเดียว ซึ่งครั้งล่าสุดนั้นก็คือฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นที่ประเทศสวีเดน จึงอาจจะพูดได้ว่านี่เป็นยุคที่ทีมชาติอิตาลีตกต่ำที่สุดเลยก็ไม่น่าจะเป็นคำพูดที่มากเกินไปนัก

โดยจุดเริ่มต้นของความตกต่ำนี้อาจจะหนีไม่พ้นความเสื่อมถอยของลีกประจำชาติอย่างกัลโช่ เซเรียอา ที่เวลานี้ไม่ใช่เบอร์ 1 เหมือนในยุคก่อนๆอีกแล้ว หากใครจำได้ในยุคที่กัลโช่รุ่งเรืองนั้นเป็นแหล่งรวมของนักเตะระดับโลกมากมาย แต่ปัญหาการล้มบอลทำให้ลีกเกิดปัญหามาอย่างยาวนานและในที่สุดก็ส่งผลกระทบกับทีมชาติในระยะยาว ซึ่งการมารับตำแหน่งของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กับการมาคุมทีมบ้านเกิดหลังจากตระเวนคุมทีมต่างๆมามากมายหลายลีกในยุโรป เรียกว่าประสบการณ์ในฐานะผู้จัดการทีมหรือในฐานะนักเตะทีมชาติ ก็มากพออย่างไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่มันชินี่กำลังต้องเจอคือปัญหาคุณภาพของนักตะที่มีให้เลือกนั่นเอง

อิตาลี่ นักเตะเจ๋งๆไม่เยอะพอ

เพราะเวลานี้ทีมชาติอิตาลีมีผู้เล่นในระดับ World Class น้อยมาก หากจะว่ากันตามตรงก็น่าจะมีเพียงแค่ มาร์โก แวร์รัตติ เท่านั้นที่พอจะอยู่ในระดับนั้น ส่วนแผงหลังที่เป็นตัวหลักของทีมมาหลายปีทั้ง จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน จอร์โจ คิเอลลินีหรือ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ล่วงเลยวันเวลาที่ยิ่งใหญ่มาแล้ว และไม่ใช่คนที่มันชินี่จะหวังเอาไปใช้สร้างทีมในยุคใหม่ได้ เท่ากับว่ามันชินี่จะต้องทำงานอย่างหนักในการดึงศักยภาพของนักเตะที่มีให้ได้ออกมาเร็วที่สุดก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันทัวนาเม้นท์ใหญ่ถัดไปก็คือ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2020

ซึ่งอิตาลีในยุคใหม่นั้นเห็นจะต้องใช้บริการของ จันลุยจี ดอนนารุมมา อเลสซานโดร ฟลอเรนซี มาร์โก แวร์รัตติ, จอร์จินโญ่, อันโตนิโอ คันเดรวา, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ เป็นแกนหลักของทีม ในขณะที่ผู้เล่นคนอื่นๆนั้น คงจะต้องสลับสับเปลี่ยนกันลงเล่นจนกว่า มันชินี่ จะมองเห็นว่าใครที่เหมาะจะมาเป็นตัวหลักที่ตัวเองสามารถวางใจได้ เพราะหากว่าการแข่งขันฟุตบอลยูโรอิตาลียังคงแสดงถึงความล้มเหลวอีก ก็มีแนวโน้มว่าช่วงเวลาตกต่ำของอิตาลีจะยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอีกนานเลยทีเดียว

เมซุต โอซิล มิดฟิลด์อัจฉริยะของอาร์เซน่อล

กองกลางชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกี เมซุต โอซิล (Mesut Özil) คือ 1 ในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย โอซิลเป็น 1 แจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่งในช่วงฟุตบอลโลก 2010 และ ประสบความสำเร็จในชีวิตที่สุดกับ 3 ปี ที่สโมสรเรอัล มาดริด แห่งสเปน

เมซุต โอซิล มีเชื้อสายของผู้อพบพชาวตุรกีเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมชาติอีกหลายๆคน เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1988 ที่เมือง Gelsenkirchen ประเทศเยอรมนี เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลอาชีพกับชาลเก้ 04 ในระดับเยาวชน โอซิล กลายเป็นสมาชิกในทีมชุดใหญ่ของชาลเก้และถูกเรียกตัวติดทีมชาติเยอรมันในปี 2006 และต่อมาเจ้าตัวก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับแวเดอร์ เบรเมน (SV Werder Bremen) ในปี 2008 โอซิลก็ยิ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นด้วยทักษะการควบคุมลูกบอลที่ไร้ที่ติ และความคิดสร้างสรรค์ที่ในการช่วยให้เพื่อนทำประตูได้ ในเวลานั้นโอซิลจึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้เบรเมนได้แชมป์บอลถ้วยอย่าง เดเอฟเบ โพคาล ในปี 2009 และ DFL Supercup อีกด้วย

22 สิงหาคม 2010 เมซุต โอซิล ย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวประมาณ 15 ล้านยูโร ที่นี่โอซิลสามารถเล่นเข้าขากับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์อันดับ 1 ของทีมได้เป็นอย่างดี และช่วยพาทีม คว้าแชมป์ได้ทั้ง ลาลีกาในฤดูกาลปี 2011-2012 โคปป้าเดลเลย์ในปี 2010–2011 และแชมป์ สแปนิชซุปเปอร์คัพ (Supercopa de Espana) ในปี 2012 แต่แม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีให้กับทีมราชันย์ชุดขาว

แต่จากการที่ทีมนั้นมักจะนำซุปเปอร์สตาร์เข้ามาอยู่เป็นประจำทำให้ตำแหน่งของโอซิลเริ่มสั่นคลอน จนในที่สุดเจ้าตัวก็ตัดสินใจย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ซึ่งทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลเยอรมันที่แพงที่สุดตลอดกาล ใส่เสื้อหมายเลข 11 ให้กับทีมปืนใหญ่ ในฤดูกาลแรกโอซิลลงเล่นให้อาร์เซน่อลทั้งหมด 40 นัด โดยทำประตู 7 และแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงมากถึง 13 ลูก โดยตั้งแต่ที่โอซิลย้ายมาเล่นในกัยทีมแม้ว่าจะยังไม่สามารถนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แต่ก็ประสบความสำเร็จจากการได้ถ้วย FA Cup ถึง 2 ครั้งด้วยกันคือ 2013–14 และ 2014–15

ส่วนในระดับทีมชาตินั้นโอซิลเองก็ประสบความสำเร็จที่สุดแล้วเพราะเจ้าตัวและทีมชาติเยอรมันสามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้ในฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิล และแม้ว่าโอซิล จะไม่เคยประสบความสำเร็จส่วนตัวจากการได้นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฟีฟ่าหรือได้บัลลงดอร์เลยก็ตามทีแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโอซิลนั้นเป็นนักเตะอัจฉริยะที่หาได้ยากคนหนึ่งในยุคนี้